ความรู้เรื่องปลวก
บทความ ประวัติของ ปลวก เกาะสมุย สุราษฎร์ กำจัดปลวกสมุนไพร NANO! หายขาดตายยกรัง รับประกัน1ปีปลอดภัยไม่หายคืนเงินโทร081-4455557เอก
ปลวก (termite) "แมลงสังคม"
ปลวกเป็นแมลงชนิดหนึ่ง มีชีวิตอยู่รวมกันเป็นหมู่เหล่า เรียกว่า "แมลงสังคม"
ปลวกเป็นศัตรูสำคัญต่อ เศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทำความเสียหายอาคารบ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง พืชสวนและพืชไร่ต่างๆ
ในประเทศไทยมีมากกว่า 90 ชนิด และทั่วโลกประมาณ 2000 ชนิด
ซึ่งแต่ละชนิดมีความเป็นอยู่และความต้องการอาหารที่แตกต่างกัน
กล่าวว่าปลวกเป็น "แมลงสังคม" ซึ่งจะประกอบด้วยวรรณะ 3 วรรณะดังนี้
1. วรรณะปลวกสืบพันธุ์ : คือปลวกตัวเมีย ในรับปลวกจะพบปลวกชนิดนี้ ทำหน้าที่ผสมพันธุ์และขยายพันธ์ เราเรียกปลวกคู่นี้ว่า ราชาปลวก(king) และราชินีปลวก(queen) นอกจากนี้ยังมีปลวกสืบพันธุ์สำรอง ซึ่งช่วยสิบพันธุ์กรณีราชาปลวกหรือราชินีตาย "แมลงเม่า"
เป็นปลวกในระยะที่มีปีก เมื่อโตเต็มที่จะบินออกนอกรังเพื่อจับคู่
ผสมพันธุ์ แล้วสลัดปีกเลือกหาสถานที่เหมาะสมเพื่อสร้างรังและเกิด
เป็นอาณาจักรใหม่ต่อไป
.
2. วรรณะปลวกงาน :
เป็นปลวกตัวเล็กไม่มีปีก ไม่มีเพศ ไม่มีตา มีหน้าที่ก่อสร้าง
รัง หาอาหารมาเลี้ยงปลวก วรรณะอื่นๆในรังและจะทำงานทุกอย่างใน
รัง
3. วรรณะปลวกทหาร :
เป็นปลวกตัวเล็ก แต่มีหัวโต โดยที่ขากรรไกรจะขยายใหญ่ขึ้นเพื่อ
ใช้ทำหน้าที่เป็นอาวุธต่อสู้ศัตรู ปลวกชนิดนี้ไม่มีปีก ไม่มี
เพศ ไม่มีตา มีประมาณ 10% ของรัง
การขยายอาณาจักรปลวก เมื่อถึงฤดูกาลที่เหมาะสม "แมลงเม่า"
จะบินออกจากรังในเขตร้อน และจะบินออกจากรังช่วงหลังฝน เมื่อ
แต่ละคู่ผสมพันธ์ุกันแล้วจะสลัดปีก แล้วเลือกหาสถานที่ที่เหมาะสม
เพื่อสร้างรังใหม่ ซึ่งแมลงเม่าคู่นี้ คือ ราชาปลวกและราชินีปลวก
ของรังนั้นๆ เอง ซึ่งแต่ละรังหรืออาษรจักรจะมี ราชาปลวกและ
ราชินีปลวกเพียง 1 คู่ เท่านั้น เมื่อหาสถานที่ได้แล้ว ภายใน
2
-3 วัน จะเริ่มวางไข่ครั้งแรกๆ จะออกไข่ไม่กี่ฟอง แต่จะเพิ่ม
ปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ตลอดอายุของมัน ไข่จะฟักตัวอ่อนภายใน 30 -
50 วัน ซึ่งไขที่ฟักออกมาจะเป็น ปลวกงานเป็นจำนวนมากกว่าปลวก
ชนิดอื่นๆ ทั้งหมด ปลวกที่มีอายุยืนยาว อาจมีไข่มากกว่า 30,000
ฟองต่อวัน
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
ปลวก เป็น
ตัวแมลงประเภทหนึ่ง เราเห็นอยู่อาศัยในทุกพื้นที่ ทั้งใน
ทวีปแอนตาร์กติกาซึ่งมีหิมะมากตลอดวัน ปลวก
เป็นสัตว์สังคมที่มีความรอบรู้รอบด้าน และมีพฤติกรรมที่น่าศึกษามาก
ถึงขั้นที่ทำให้มันเป็น สิ่งมีชีวิต ที่
คนเอาใจใส่ทำความเข้าใจเยอะที่สุดซึ่งปลวกจะมีความหนักตัวเบาเมื่อเปรียบ
เทียบกับคนก็ตาม ถ้าเราชั่งน้ำหนักจากแมลงเหล่านี้ทั้งโลก
เราก็จะเห็นว่ามันมีน้ำหนักพอๆ กับคนทั้งหมดเลย
นักวิทยาศาสตร์หลายกลุ่มคิดว่าปลวก
มีที่มาจากแมลงเก่าแก่ที่ดำเนินชีวิตเป็นกาฝากตามตัวสัตว์ตระกูลอื่น
และเกิดเกิดมาบนแผ่นดินเมื่อประมาณ 220 ล้านปีก่อน ปลวกจะ
ทำหน้าที่ฉีดสารปฏิชีวนะออกมาเพื่อป้องกันปลวกไม่ให้มี
โรคจากการโดนปรสิตคุกคาม
จึงทำให้มันสามารถสร้างรังอยู่ในดินและตามต้นไม้ที่ ผุได้สบายๆ
และยังมีสารบางชนิดที่พ่นออกมาจากแมลงเหล่านี้ในการบอกส่งข่าวถึงกัน
ซึ่งทำให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตสังคมที่ดี ในปัจจุบันนี้ ปลวก มีความสำคัญต่อระบบแวดล้อมของโลกอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ตั้ง ในเขตร้อนของโลกป่าดงดิบ ในทวีปนี้จะขาด ปลวก ไม่ได้ก็ว่าได้ปลวกตัวแรกเกิดตอนไหน ? ปลวก ตัวแรกของโลกถือกำเนิดเมื่อประมาณ 220 ล้านปีมาแล้ว การขุดพบซากฟอสซิลของปลวก โดย E.M. Bordy แห่งมหาวิทยาลัย Witwatersrand ในแอฟริกาใต้ทำให้นักชีววิทยาสัตว์ดึกดำบรรพ์รู้ว่าปลวกโบราณมีรูปร่างที่ ละม้ายคล้ายคลึงแมลงสาบปัจจุบันมาก แต่มีขนาดเล็กกว่า และมีผิวอ่อนนุ่มกว่า ถึงแม้โลกทุกวันนี้มีปลวกมากกว่า 2,000 ชนิด แต่ก็มีเพียงไม่กี่ชนิดที่ชอบอาศัยอยู่ในเนื้อไม้ของอาคารบ้านเรือน ซึ่งนับเป็นภัยต่อที่อยู่อาศัย เพราะปลวกจะกัดกินสรรพสิ่งที่ทำด้วยไม้จนหมด และนั่นก็หมายความว่า เจ้าของบ้านจะต้องอพยพออกจากบ้านในที่สุด |
ปลวกมีวรรณะยังไง ?
ปลวกมี 3 วรรณะ ได้แก่
1. ปลวกในวรรณะสืบพันธุ์ที่โตเต็มที่ หรือ แมลงเม่า
2. วรรณะกรรมกร หรือ ปลวกงาน
3. วรรณทหาร
ปลวกใช้ชีวิตยังไง ? ในเมื่อปลวกมีวรรณะที่ชัดเจนตั้งแต่เกิดแล้วหน้าที่ที่ต้องทำย่อมติดตัวมาด้วย ปลวกเป็นสัตว์สังคมที่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง มันทำมาหากินและดูแลกันอย่างเป็นทีม ลักษณะนิสัยเช่นนี้ทำให้มนุษย์หรือสัตว์อื่นๆ ปราบปรามหรือกำจัดมันได้ยาก ดังนั้น เวลาจะสร้างบ้าน เจ้าของบ้านควรใช้วิธีฉีดสารเคมีตามรังของมันที่อาจอยู่ในตอไม้หรือเศษไม้ ใต้ดินให้ทั่ว เพื่อจะได้มั่นใจว่าปลวกตายหมด เพราะเหตุว่ายากำจัดปลวกเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตซึ่งหมายถึงมนุษย์ด้วย ดังนั้น การพ่นยากำจัดปลวกจึงต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวังและสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องรอให้แมลงเม่า ซึ่งเป็นปลวกในระยะสืบพันธุ์ต้องบินว่อนออกมา เพราะถ้าถึงเวลานั้น ทุกอย่างที่เป็นชิ้นส่วนของบ้านก็ตกอยู่ในภาวะอันตรายเรียบร้อยแล้ว
การ
ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในจอมปลวก
และใต้ดินทำให้เราไม่ได้ศึกษาธรรมชาติของปลวกอย่างใกล้ชิด
จนทำให้คนหลายคนคิดว่าปลวกคือ มดขาว
แต่ในความเป็นจริงปลวกและมดเป็นสัตว์คนละชนิดกัน เพราะมดเป็นสัตว์ในอันดับ Hymenoptera และปลวกอยู่ในอันดับ Isoptera ทั้ง
นี้เพราะปีกของมดสั้น และมีขนาดไม่เท่ากัน แต่ปีกของปลวกยาวและใหญ่เกินตัว
อีกทั้งมีขนาดเท่ากันด้วย นอกจากความแตกต่างเรื่องปีกแล้ว
สรีระส่วนที่เป็นเอวก็แตกต่างกัน คือมดมีเอว แต่ปลวกไม่มี
และเวลามดตัวผู้ผสมพันธุ์กับราชินีมดแล้ว มันจะตายในเวลาต่อมาอีกไม่นาน
ส่วนปลวกตัวผู้เมื่อได้เสพสมกับราชินีปลวกแล้ว
มันจะช่วยกันสร้างอาณาจักรปลวกให้มีบริเวณเพียงพอสำหรับให้ลูกปลวกเจริญเติบ
โต เพราะราชินีปลวกที่เติบโตเต็มที่อาจมีลำตัวยาวตั้งแต่ 9-12 เซนติเมตร
และเวลาตั้งครรภ์ มันจะเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ ถึงกระนั้นมันก็ไม่อดอาหารตาย
เพราะมันมีปลวกงานที่มีนิสัยขี้อายแต่ขยันขันแข็งเดินหน้าหาอาหารมาให้
ราชินีของมันเสวยตลอดวัน และมันยังช่วยทำความสะอาดตัวให้ราชินีของมันด้วย
โดยการเลียตามตัวตลอดเวลา และเมื่อราชินีปลวกวางไข่แล้ว
ปลวกงานก็จะขนไข่ไปเรียงให้เป็นที่เป็นทาง
และหาอาหารมาเลี้ยงปลวกอ่อนที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้ด้วย
นักชีววิทยายังพบอีกว่า ปลวกบางชนิดรู้จักทำสวนรา ซึ่งให้ cellulose อัน
เป็นอาหารโปรดของมัน โดยมันจะขนใบหญ้าใบไม้มาวางกองจนใบไม้กลายสภาพเป็นรา
อนึ่งราที่กำลังเจริญเติบโต มันจะคายไอน้ำออกมา
ทำให้ความชื้นของบรรยากาศในรังอยู่ที่ระดับพอดีด้วย
|
พญาปลวกมีหน้าที่อะไร ? ราชา ปลวกนั้น ไม่ต้องทำมาหากินใดๆ เพราะอาณาจักรปลวกได้กำหนดหน้าที่หาอาหารให้ปลวกงานทำแล้ว มันจึงมีหน้าที่อย่างเดียวเท่านั้น คือสืบพันธุ์กับราชินีปลวกในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นยามที่ศัตรูปลวกอันได้แก่ มด แมลงเต่าทอง ตัวต่อ กิ้งก่า ตะกวด ตะขาบ และคนนอนหลับพักผ่อน ทำให้ประสิทธิภาพในการสร้างปลวกอ่อนของมันไม่ถูกกระทบกระเทือน |
วงจรของปลวก และ แมงเม่าใช่ปลวกจริงหรือปล่าว ? แมลง เม่าเป็นปลวกทั้งเพศผู้และเพศเมียที่ไม่เป็นหมัน เมื่อบินออกจากรังจะจับคู่กันแล้วจะสลัดปีกทิ้ง จากนั้นจะพากันไปหาสถานที่ที่เหมาะสมในการที่จะเป็นรังใหม่ของมันต่อไปนั่น คือที่ที่มีความชื้นสูงและมีอาหารคือไม้อยู่อย่างพอเพียง ขั้น ตอนการผสมพันธุ์เริ่มจากเพศเมีย ซึ่งเป็นราชินีปลวกจะชูส่วนท้องและปล่อยกลิ่นฟีโรโมนเพศ ทำให้ปลวกราชาเคลื่อนที่เข้าไปหาและเริ่มการผสมพันธุ์ เมื่อสร้างรังเสร็จตัวเมียจะเริ่มวางไข่ในระยะต่อมาภายในระยะเวลา 1เดือน การวางไข่ครั้งแรกจะมีจำนวนน้อยประมาณ 10 ฟอง หรือมากกว่า ไข่จะฟักเป็นตัวอ่อนออกมาภายในเวลาหลายสัปดาห์ โดยปลวกรุ่นแรกจะเป็นปลวกงานและปลวกทหาร ในระยะแรกตัวอ่อนจะได้รับอาหารจากปลวกราชินีโดยการกินมูลและอาหาร ซึ่งทำให้ปลวกได้รับโปรโตซัวและแบคทีเรีย
ต่อ
มาส่วนท้องของปลวกราชินีจะขยายใหญ่ขึ้นจะเริ่มวางไข่อีกและจะเคลื่อนไหวไป
ไหนมาไหนไม่ได้ ในครั้งนี้จะเป็นการผลิตปลวกงานและปลวกทหารให้เพิ่มขึ้น
ในระยะ 3-4 ปีต่อมาราชินีจึงวางไข่เพื่อผลิตวรรณะสืบพันธุ์ชุดแรก (primary reproductive) สำหรับตัวราชาปลวกจะมีรูปร่างขยายขึ้นกว่าเดิมไม่มากนัก จะคอยอยู่ใกล้ๆ กับตัวนางพญาปลวกเพื่อทำการผสมพันธุ์เพียงอย่างเดียว
|
ไข่ของปลวกเป็นยังไง ? ลักษณะ ไข่ปลวกมีรูปร่างเรียวยาวหรือค่อนข้างกลม สีขาวนวลมักวางเป็นฟองเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มคล้ายไข่แมลงสาบ เมื่อฟักออกเป็นตัวจะมีลักษณะเหมือนตัวเต็มวัยแต่จะมีขนาดเล็กกว่า ตัวอ่อนจะลอกคราบหลายครั้งและเจริญเป็นตัวเต็มวัยที่ไม่มีปีกและเป็นหมัน คือปลวกงานและปลวกทหาร ส่วนตัวอ่อนที่ลอกคราบกลายเป็นตัวเต็มวัยมีปีกหรือแมลงเม่าจะกลายเป็นวรรณะ สืบพันธุ์ ระยะเวลาการเจริญของวรรณะสืบพันธุ์จากไข่ถึงตัวเต็มวัยใช้เวลา 9-10 เดือน ส่วนวรรณะทหารและกรรมกรใช้เวลา 4-6 เดือน ปลวกนางพญาและปลวกราชาจะมีอายุยืนยาวถึง 25-50 ปี |
ปลวกมีการปกครองยังไง ?
อาณาจักรปลวกมีการปกครองแบบสมบูรณาสิทธิราชย์
คือมีราชินีปลวกเป็นเจ้าแม่ผู้ทรงอำนาจสูงสุด
เพราะเจ้าแม่ปลวกบางพันธุ์อาจมีอายุยืนนานถึง 100 ปี ดังนั้น
การมีประสิทธิภาพสูงในการผลิตปลวก จึงทำให้สมาชิกปลวกมีจำนวนเพิ่มขึ้นๆ
ตลอดเวลา และนั่นก็หมายความว่า รังปลวกจะต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็ไม่มีปัญหาใดๆ เพราะปลวกงานมีความสามารถด้านสถาปัตยกรรมสูง
โดยมันจะขนดินจากใต้ดินขึ้นมาบนดิน
และวางให้เป็นกองแล้วใช้น้ำลายเป็นตัวเชื่อมเนื้อดิน
จนได้จอมปลวกที่อาจสูงถึง 7 เมตร และนั่นก็หมายความว่า
ถ้ามนุษย์จะเก่งเท่าปลวกในการสร้างบ้าน
เราต้องสร้างตึกให้สูงเท่าดอยอินทนนท์ การไม่มีตาจะดู
ทำให้ปลวกไม่รู้แม้แต่น้อยว่ารูปร่างในภาพรวมของรังมันมีหน้าตาอย่างไร
แต่ในรายละเอียดเล็กน้อยมันรู้ดีเช่น
มันรู้ว่ามันต้องสร้างรังให้เอียงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมขัง
และรังของมันต้องมีรูระบายอากาศเข้าออก
อีกทั้งรูต้องมีลิ้นปิดเปิดให้ความชื้นภายในรังอยู่ที่ระดับพอดี สำหรับปลวก
2 ล้านตัวด้วย ทั้งๆ
ที่ปลวกเหล่านี้หายใจก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาชั่วโมงละ 40 ลิตร
ปลวกกินอะไรได้บ้าง ? ความ สามารถด้านกินของปลวกก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ เพราะมันกินได้ทั้ง cellulose และยางที่หุ้มสายโทรศัพท์หรือสายไฟฟ้า และในยามที่อาหารขาดแคลน มันก็อาจกินญาติที่อ่อนแอและลูกอ่อน หรือเวลาราชินีปลวกสิ้นพระชนม์ ปลวกบริวารก็จะจับซากราชินีมาสังเวยกินกัน เรียกได้ว่าปลวกแทบจะกินได้เกือยบทุกอย่างเลยทีเดียว |
ปลวกมีวัคซีนจริงหรือ ? ปลวกมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคเหมือนมนุษย์ และนี่ก็คือเหตุผลหลักที่ทำให้สัตว์สังคมชนิดนี้มีอายุยืนนานนับ 200 ล้านปี ปลวก Zootermorpsis angustieollis ก็ เช่นกัน เวลามีโรคระบาด ปลวกที่รอดตายจะมีภูมิคุ้มกัน และมันจะถ่ายทอดภูมิคุ้มกันนี้สู่ปลวกตัวอื่นๆ โดยถ่ายบักเตรีในกระเพาะให้ปลวกอื่นกิน ดังนั้น บักเตรีซึ่งสามารถทำหน้าที่ภูมิคุ้มกัน จึงสามารถผ่านจากปลวกตัวหนึ่งไปสู่ปลวกตัวอื่นๆ ได้ |
วิธีสร้างจอมปลวกทำยังไง ? การ สร้างจอมปลวกเริ่มขึ้นโดยเหล่าปลวกงานจะช่วยกันกัดดินและขนดินมาทีละก้อน แล้วใช้น้ำลายเป็นตัวเชื่อมติด พวกมันค่อย ๆ สร้างผนังจอมปลวกแน่นหนาขึ้นทีละน้อยอย่างอดทน โดยมีปลวกทหารคอยทำหน้าที่อารักขาความปลอดภัยให้ ศัตรูสำคัญของปลวกทหารคือมดพันธุ์ต่าง ๆ ที่ชอบเข้ามารุกรานถึงภายในจอมปลวก เมื่อปราศจากการรบกวนปลวกงานจะสร้างห้องหับต่าง ๆ อย่างเป็นระบบเริ่มตั้งแต่ตำหนักของนางพญาที่จะต้องแข็งแกร่งเป็นพิเศษและ ซ่อนอยู่มิดชิดที่สุดภายในรัง แล้วจึงสร้างห้องเก็บรักษาไข่เพื่อบ่มฟักตัวอ่อน ซึ่งมันจะต้องขนไข่ออกจากตำหนักของนางพญามาจัดเก็บให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ เสร็จจากนั้นปลวกงานส่วนหนึ่งทำการขุดช่องระบายอากาศเพื่อให้ภายในจอมปลวก เย็นสบายอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งขุดอุโมงค์ใต้ดินสู่ภายนอกเพื่อใช้เป็นเส้นทางในการออกไปหาเสบียงอัน ได้แก่เศษไม้เป็นหลัก ความจริงปลวกไม่สามารถย่อยไม้ได้เองอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นโปรโตซัวซึ่งอาศัยอยู่ในกระเพาะของมันต่างหากที่ช่วยย่อยเซลลูโลสให้ กลายเป็นสารอาหาร ปลวกงานจะนำเชื้อราที่ได้จากการย่อยมาสร้างเป็นสวนเห็ดขึ้นภายในจอมปลวก เพื่อลดภาระในการออกตระเวนหาอาหารจะเห็นว่าปลวกงานมีหน้าที่หนักที่สุดใน บรรดาปลวกทั้ง 3 วรรณะ ปลวกงาน จึงมีประชากรมากที่สุด ทั้งนี้นางพญาจะมีฮอร์โมนสังคม (Social Hormone) ควบคุมการวางไข่ให้อัตราส่วนประชากรในวรรณะต่าง ๆ ได้สมดุลอยู่ตลอดเวลา |
สงคราม ปลวก กับ มนุษย์ คือ ? |
ณ
วันนี้ ปลวกกำลังคุกคามอาคารสถานที่อยู่อาศัยของมนุษย์ทั่วโลก
โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องใช้งบประมาณ 45,000 ล้านบาท/ปี
ในการต่อสู้ปลวก Formosanการสำรวจทำให้รู้ว่าขณะนี้ปลวก Formosan
ในอเมริกามีประมาณ 500,000-3.5 ล้านตัว
ปลวกอันตรายพันธุ์นี้ได้ติดมากับเรือจากเอเชียเมื่อประมาณ 60 ปีก่อนนี้
และขณะนี้ได้เข้ามาอาศัยอยู่ตามต้นไม้ ตามบ้านในรัฐทางใต้ และฮาวาย
โดยเฉพาะที่เมือง New Orleans มีปลวก Coptotermes formosanus มากเป็นพิเศษ
เพราะที่นี่มีอากาศอบอุ่น มีความชื้นสูง
และบ้านไม้ในเมืองมักมีเถาวัลย์ปกคลุม
อนึ่งในการต่อสู้ปลวกนั้น คนกำจัดปลวกใช้กล้อง infrared ส่องตามผนัง
เพราะรู้ว่าถ้าที่ใดมีปลวกอาศัยอยู่บริเวณนั้น จะมีความร้อนมาก
ปลวกจำนวนมากจะแผ่รังสีอินฟราเรดออกมามากซึ่งกล้องสามารถรับได้
นักกำจัดปลวกบางคนใช้วิธีส่งคลื่น microwave ไปกระทบผนัง
ถ้าคลื่นกระทบปลวกที่กำลังเคลื่อนที่
คลื่นที่สะท้อนกลับออกมาจะทำให้เจ้าหน้าที่รู้ได้ว่าภายในกำแพงหรือผนังนั้น
มีปลวกหรือไม่ และเมื่อรู้ว่าปลวกมีจริงแล้ว หน้าที่ต่อไปคือ
กำจัดมันโดยอาจใช้ยาฉีดที่ทำด้วย hexaflumuron
ซึ่งจะทำให้ปลวกที่ลอกคราบมีปัญหา
เพราะสารเคมีชนิดนี้สามารถทำให้เปลือกหุ้มตัวปลวกไม่แข็งตัว และปลวกก็จะตาย
หรือฉีดพ่นด้วย chlorfenapyr ก็เป็นการฆ่าปลวกด้วยสารเคมีอีกวิธีหนึ่ง
วิธีการเปลี่ยนแปลงยีน (gene)
ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่กำลังได้รับการพิจารณาว่าเป็นวิธีกำจัดที่ดี
โดยพยายามเปลี่ยนแปลงตัวอ่อน เป็นปลวกทหารให้หมด เพราะปลวกทหารเป็นหมัน
และไม่มีหน้าที่หาอาหาร ดังนั้น ถ้ารังปลวกมีปลวกทหารมาก
ปลวกงานก็ต้องหาอาหารมากขึ้นๆ จนในที่สุดปลวกงานก็จะล้มตาย
และปลวกทหารก็จะล้มตาย
ปลวกนางพญา | มีหน้าที่ขยายพันธุ์และวางไข่นางพญาปลวก 1 ตัว จะมีอายุยืนถึง 25 ปี มักจะเห็นว่ามีปีกและลำตัวสีเข้ม |
ปลวกราชา | มีหน้าที่สืบพันธุ์คู่กับนางพญา |
ปลวกทหาร | มีหน้าที่ปกป้องรังจากแมลงที่เป็นศัตรูของมัน เช่น มด มดเป็นศัตรูตัวสำคัญของปลวก มดจะมีหัวใหญ่และมีตาต่างกับปลวกที่ไม่มีตา |
ปลวกงาน | มีหน้าที่ดูแลรังและหาอาหาร จึงเป็นที่ทำลายโครงสร้างอาคารโดยตรง ไม่มีปีกตัวมีสีอ่อน ยาวประมาณ 1/8 นิ้ว |
แมลงเม่า | เป็นช่วงวงจรชีวิตหนึ่งของปลวก ก่อนที่จะเป็นปลวกราชา และปลวกนางพญาต่อไป |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น